hotnews

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562 เวลา 16.30 น. ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรีดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ เยี่ยมชมผลงานดีเด่น เรื่อง “โรงพยาบาลคู่แฝด โรงพยาบาลทวาย – โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา” โดยคณะกรรมการพัฒนาระบบบริการสู่เมืองสุขภาพอาเซียน โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาได้ดำเนินการ ดังนี้
1.มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 เห็นชอบองค์ประกอบและแนวทางการดำเนินงานของ คณะอนุกรรมการร่วมไทย – เมียนมาเพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง จำนวน 6 สาขา รวมทั้งสาขาการพัฒนาชุมชน (Joint Sub -Committee on Community Development and Relocation) โดยฝ่ายไทยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน มีผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ(ขณะนั้น) และอธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเป็นกรรมการและเลขานุการร่วม ส่วนฝ่ายเมียนมามีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสวัสดิการสังคม การบรรเทาทุกข์ และการโยกย้ายถิ่นฐานเป็นประธาน
2.คณะกรรมการร่วมสาขาการพัฒนาชุมชน ได้เห็นชอบการดำเนินงานในการพัฒนาในพื้นที่เป็น ๒ ระยะคือ
ระยะเร่งด่วน เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ต้องอพยพโยกย้ายออกจากพื้นที่เดิมเนื่องจากการเกิดขึ้นของเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง โดยจะให้ความช่วยเหลือในการฝึกอาชีพที่เหมาะสมและการพัฒนาชุมชนในพื้นที่อยู่ใหม่ ระยะกลาง เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และลดผลกระทบทางสังคมจากการเกิดขึ้นของเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และการขยายตัวของเมืองทวายโดยฝ่ายไทยเสนอความร่วมมือ ดังนี้
(1)โครงการพัฒนาแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลทวาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านการรักษาพยาบาลอุบัติเหตุฉุกเฉินและการแพทย์ฉุกเฉินรวมทั้งการบริหารจัดการโรงพยาบาลเพื่อรองรับเพิ่มขึ้นของความต้องการด้านสาธารณสุข ประกอบด้วย 3 แผนงาน ได้แก่ แผนงานก่อสร้างอาคารปี 2562-2565 การก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ขนาด 2 ชั้น 1 หลัง แผนงานสนับสนุนอุปกรณ์ / เครื่องมือแพทย์ ปี 2559-2562 จำนวน 5 รายการ จัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมอุปกรณ์ประจำรถ จำนวน 1 คัน จัดซื้อครุภัณฑ์การแพทย์สำหรับใช้ในการฝึกอบรม จำนวน 4 รายการ แผนงานพัฒนาบุคลากร การพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขโรงพยาบาลทวายให้มีศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน และใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ประเทศไทยได้สนับสนุนให้เกิดประสิทธิภาพ 9 หลักสูตรตามแผนความต้องการพัฒนาของโรงพยาบาลทวาย ดำเนินการแล้วเสร็จ เมื่อ 6 กรกฎาคม 2562 มีรายละเอียด ดังนี้
หลักสูตรที่ 1 Study visit on Hospital Environmental Management &Infectious Control
หลักสูตรที่ 2 และ3 Basic trauma & emergency และ Basic ICU & OR Care
หลักสูตรที่ 4 และ 5 Training on trauma & emergency care (basic course)
หลักสูตรที่ 6 In Country Training on Trauma and Emergency Care at Dawei Hospital
หลักสูตรที่ 7 Study Visit for Administrative Staff of Dawei Hospital
หลักสูตรที่ 8 Training on Emergency Care and Ambulance
หลักสูตรที่ 9 Study Visit Program For Medical Staff of Dawei Hospital
(2)โครงการพัฒนาการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยเทคโนลียีทวายและโรงเรียนเทคนิคทวายเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานด้านอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของเขตเศรษฐกิจพิเศษ
3.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เยือนเมียนมาอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่9–10 ตุลาคม 2557 ได้หารือกับประธานาธิบดีเมียนมา และแจ้งความพร้อม ในการจัดตั้งโรงพยาบาลขนาดเล็ก ( 100 เตียง )ในทวายหากฝ่ายเมียนมาต้องการ
4.อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศและ Director-General}Department of Medical Services, Ministry of Health and Sports เมียนมา ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมา ว่าด้วยโครงการพัฒนาแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลทวายที่กรุงเนปิดอว์ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560


Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562 เวลา 14.30 น. ที่โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ เยี่ยมหน่วยงานโรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ยซึ่งมีผลงานดีเด่น เรื่อง “Smart Hospital” ตามนโยบายของรัฐบาลให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็น MOPH 4.0 ปรับระบบการทำงานเป็นดิจิทัล (Digital Transformation) นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพของระบบบริการ ปรับระบบบริหารจัดการโรงพยาบาลเป็น Smart Hospital พัฒนาไลน์ ออฟฟิเชียล MOPH Connect เป็นช่องทางเชื่อมต่อประชาชนกับโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ
โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง มีประชากรตามสิทธิการรักษาทั้งหมด 33,259 คน โดยแยกตามสิทธิการรักษาดังนี้ สิทธิบัตรทอง 26,620 คน สิทธิข้าราชการ 1,580 คน สิทธิประกันสังคม 4,781 คน อื่นๆ 278 คน ในปี พ.ศ.2561 มียอดผู้มารับบริการเฉลี่ย 249 คน/วัน การให้บริการผู้ป่วยนอกซ้ำซ้อนไม่เป็นระบบ จึงทำให้ระยะเวลารอคอยนาน ประกอบกับสถานที่แออัดความพึงพอใจ ของผู้รับบริการผู้ป่วยนอกจึงลดลง ทำให้เกิดปัญหาวิกฤตสภาพคล่องระดับ 7 อย่างต่อเนื่อง จึงมีการพัฒนางานด้านต่างๆ รวมถึงการจัดรูปแบบบริการใหม่ เน้นการพึ่งพาตนเอง นำไปสู่การเพิ่มรายได้ให้กับโรงพยาบาล และยังสามารถแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของโรงพยาบาลได้สำเร็จทำให้ชาวบ้านในพื้นที่และนอกพื้นที่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลและบริการสุขภาพเพิ่มขึ้น ในปี พ.ศ 2562 มียอดผู้มารับบริการเฉลี่ย 324 คน/วัน นอกเหนือจากการแก้ไขวิกฤตสภาพคล่อง โรงพยาบาลได้มีการพัฒนาต่อเนื่องดังนี้ 1.ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในโรงพยาบาลให้สวยงาม ทันสมัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มารับบริการ 2.พัฒนาศักยภาพโดยใช้เทคโนโลยีระบบดิจิตอล สู่ Smart Hospital ด้วยการนำเทคโนโลยีมาพัฒนา ตั้งแต่การเข้ารับบริการในโรงพยาบาลด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียว ทั้งการนัดหมายผู้ป่วยลงทะเบียนตรวจล่วงหน้า คิวการตรวจ การจ่ายยา และการเชื่อมโยงข้อมูลแผนการรักษาผู้ป่วย ลดความจำเป็นการมาโรงพยาบาล รวมถึงการส่งข้อมูลการรักษาต่อเนื่อง 3.พัฒนาสู่ Digital Hospital อาทิเช่น OPD Paper less และ IPD Paper less 4.ปรับระบบบริการที่แผนกผู้ป่วยนอกเพื่อลดระยะเวลารอคอยซึ่งจากเดิม ระยะเวลาการรอคอย 55 นาที ลดลงเหลือ 40 นาที ผลงานที่ภาคภูมิใจ เป็นต้นแบบ Smart Hospital และเป็นแหล่งศึกษาดูงานของโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ได้รับรางวัลบริการภาครัฐระดับดีเด่นประเภทพัฒนาการบริการ ได้รับรางวัลโรงพยาบาล Green and clean ระดับดีเด่น ของเขตสุขภาพที่ 5 ปี พ.ศ.2561 ได้รับรางวัลส้วมสุดยอดแห่งปี ตามมาตรฐาน HAS กรมอนามัย ได้รับคำชมเป็นองค์กรแห่งความสุข happy organize ระดับเขตเขตสุขภาพที่ 5


Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562 เวลา 13.00 น. ที่ศูนย์เรียนรู้บ้านปอเชียง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานงานนมแม่และงานอนามัยแม่และเด็ก โดยชมรมอสม.ตำบลนมแม่ ร่วมกับโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 มีการดำเนินงานอนามัยแม่และเด็ก โดยจัดระบบบริการตามมาตรฐานงานอนามัยแม่และเด็ก ตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และหลังคลอดตลอดถึงการเลี้ยงดูบุตรแรกเกิดถึง 5 ปี เชื่อมโยงสู่ชุมชนและให้ชุมชนมีส่วนร่วมดำเนินการจะส่งผลให้ลูกเกิดรอดแม่ปลอดภัย จากการตั้งครรภ์และการคลอด พร้อมทั้งเด็กได้รับการเลี้ยงดูให้เจริญเติบโต และมีพัฒนาการสมวัย โดยการสนับสนุนให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับแม่ที่ต้องทำงานไม่มีเวลาให้นมลูก เครือข่ายก็ให้ความรู้และทำความเข้าใจกับเจ้าของกิจการหรือนายจ้าง จนกระทั่งสามารถขอพื้นที่ ในโรงงานสร้างเป็นมุม “นมแม่” ช่วยจัดให้มีอ่างล้างมือ มีอุปกรณ์เก็บนมแม่ มีตู้เย็นเก็บนม เครือข่ายร่วมรณรงค์ต่อต้านนมผง ปฏิเสธตัวแทนนมผงจากบริษัทต่างๆที่เข้ามาติดต่อทำกิจกรรมในพื้นที่ ร่วมกันหาวิธีการป้องกันไม่ให้มีการจำหน่ายนมผงในร้านค้าที่อยู่พื้นที่ของชุมชน การเฝ้าระวัง ติดตามสตรีมีครรภ์ และช่วยเหลือดูแลสตรีหลังคลอดอย่างใกล้ชิด อสม.ลงเยี่ยมเยียนช่วยเหลือสนับสนุนแม่หลังคลอดทุกคน เพื่อให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ได้อย่างน้อย 6 เดือนหรือมากกว่านั้น ส่งผลให้ชุมชนท่าม่วงกลายเป็นชุมชนต้นแบบในการเลี้ยงดูลูกด้วยนมแม่ การคิดค้นนวัตกรรมในการช่วยเหลือหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอดและชุมชนประกาศมาตรการทางสังคม ใช้เกณฑ์ตำบลนมแม่เป็นแนวทางในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทำให้ตำบลท่าม่วงผ่านการประเมินตำบลนมแม่ปี 2556


Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.00 น. ที่ลานวัฒนธรรมวัดอินทาราม (หนองขาว) อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ การประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ๑ (จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี) พบปะประชาชนและ อสม. “ยกระดับ อสม.เป็นหมอประจำบ้านดูแลสุขภาพตนเองและช่วยเหลือในระดับชุมชน” ให้ อสม.เป็นต้นแบบในการส่งเสริมสุขภาพในชุมชนและเชิญชวนให้ประชาชนหันมาดูแลตนเองออกกำลังกายอย่างเหมาะสม รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้มีสุขภาพดี โดยมี นพ.นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย รศ.นพ.สุรพงษ์ ตันธนศรีกุล คณะที่ปรึกษารัฐนมตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและอดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดกาญจนบุรี คณะผู้บริหารสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ผู้มีเกียรติ ผู้นำชุมชน อสม. ภาคีเครือข่ายสุขภาพ และประชาชนจำนวนมากร่วมให้การต้อนรับ


© 2024 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ที่อยู่ ถนนแสงชูโต ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี 71000 หมายเลขโทรศัพท์ 034-512961, 034-540632 หมายเลขโทรสาร 034-511734 ,